27 สิงหาคม 2552

ปรีดี พนมยงค์


ศาสตราจารย์ ดร. ปรีดี พนมยงค์ (11 พฤษภาคม พ.ศ. 2443 - 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2526) หรือ
หลวงประดิษฐมนูธรรม เป็นผู้นำสมาชิกคณะราษฎรสายพลเรือน ผู้อภิวัฒน์การปกครองของสยามจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย เป็นนายกรัฐมนตรี 3 สมัย และรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ อีกหลายสมัย ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้นำขบวนการเสรีไทยต่อต้านกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น มีชื่อรหัสว่า "รู้ธ" เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง และเป็น "ผู้ประศาสน์การ" คนแรกและคนเดียวของมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 8และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ยกย่องในฐานะ "รัฐบุรุษอาวุโส" ด้วย

ในปี พ.ศ. 2543 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ประกาศบรรจุชื่อปรีดีไว้ใน ปฏิทินบุคคลสำคัญของโลก ปี ค.ศ. 2000-2001

การศึกษา

สำเร็จการศึกษาในระดับประถมที่ โรงเรียนวัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า ได้เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมต้น ณโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร และมัธยมปลาย ณ โรงเรียนตัวอย่างประจำมณฑลกรุงเก่า หรือปัจจุบันคือ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย หลังจากนั้นออกมาช่วยบิดาทำนาหนึ่งปี และจึงได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2460

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2462 สอบไล่วิชากฎหมาย ชั้นเนติบัณฑิตได้ เมื่ออายุ 19 ปี และเมื่ออายุ 20 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมพอใจในผลสอบ จึงให้ทุนไปเรียนต่อด้านกฎหมายที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยก็อง (Univesite de Caen) และศึกษาพิเศษจากอาจารย์เลอบอนนัวส์ (Lebonnois) จนสำเร็จการศึกษาได้ปริญญารัฐเป็น "บาเชอลิเอร์" กฎหมาย (Bachelier en Droit) และได้ปริญญารัฐเป็น "ลิซองซิเอ" กฎหมาย (Licencie en Droit)

เมื่อ พ.ศ. 2469 สำเร็จการศึกษาด้านนิติศาสตร์ (Sciences Juridiques) ระดับปริญญาเอก และสอบไล่ได้ประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูงในทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง (Diplome d’Etudes Superieures d’Economic Politique) จากมหาวิทยาลัยปารีส ได้ปริญญารัฐเป็น "ดุษฎีบัณฑิตกฎหมาย"(Docteur en Droit) นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ศึกษาต่อจนจบดุษฎีบัณฑิตด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยปารีส





19 สิงหาคม 2552

ทนายความ


ทนายความ เป็นวิชาชีพทางกฎหมายแขนงหนึ่ง ในแต่ละประเทศอาจมีศัพท์เรียกทนายแตกต่างกัน เช่น barrister-at-law หรือ attorneyหรือ solicitor ซึ่ง barrister-at-law จะหมายถึงทนายความที่ว่าความในศาล ส่วน solicitor จะเป็นที่ปรึกษากฎหมายที่ไม่ได้ว่าความ ในอเมริกาจะเรียกทนายความว่า attorney หรือ lawyer ซึ่งว่าความได้ และเป็นทนายความเพียงประเภทเดียว บางครั้งมีผู้แปลคำว่า lawyer ว่านักกฎหมาย แต่ในประเทศไทย ทนายความสามารถรับปรึกษาปัญหากฎหมายและว่าความได้ โดยผู้จะเป็นทนายความ ต้องสอบใบอนุญาตว่าความจากสภาทนายความก่อน ขณะที่บางประเทศ ทนายความต้องจบเนติบัณฑิตย์ก่อน


คุณสมบัติของทนายความ


คุณสมบัติของทนายความในแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามกฎหมายของแต่ละประเทศ ทนายความในบางประเทศเช่น ประเทศอังกฤษ ต้องสำเร็จเนติบัณฑิต สำหรับคุณสมบัติของทนายความในประเทศไทยนั้น จะต้อง
1.มีสัญชาติไทย
2.สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์จากสถาบันที่สภาทนายความอนุมัติ
3.ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็นผู้ได้กระทำการใด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์
4.ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
5.ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่สังคม

Thammasat University








มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2477 โดยมีชื่อเมื่อเริ่ม ก่อตั้งว่า "มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ และการเมือง" (มธก.) มหาวิทยาลัยนี้ถือกำเนิดมาจากความคิดริเริ่มของ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ (รัฐมนตรีว่าการ กระทรวง มหาดไทย ในขณะนั้น) โดยเล็งเห็นว่าการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ขณะนั้นมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียว เมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ.2475 ประเทศชาติ มีความจำเป็นต้องมีบุคคลที่มีความรู้ ทางกฎหมาย การปกครอง และสังคม มารับใช้ประเทศชาติโดยด่วน จึงได้เสนอร่าง พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย วิชา ธรรมศาสตร์ และ การเมือง พ.ศ.2476 เพื่อเปิดสอนในวิชาแขนงดังกล่าว เมื่อพระราชบัญญัติผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ได้มีพิธี เปิดมหาวิทยาลัยขึ้น เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2477 โดยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นผู้กระทำพิธีเปิด และ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ประศาสน์การคนแรกของมหาวิทยาลัย (และเป็นผู้ประศาสน์การ คนเดียว เพราะต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ ตำแหน่ง เป็นอธิการบดี)
ปรัชญาของการตั้งมหาวิทยาลัย ปรากฏตามสุนทรพจน์ ของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รายงานต่อผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์ มีดังนี้ "...มหาวิทยาลัยย่อมอุปมา ประดุจบ่อน้ำ บำบัดความกระหายของราษฎร ผู้สมัครแสวงหาความรู้ อันเป็นสิทธิและโอกาส ที่เขาควรมีควรได้ ตามหลักเสรีภาพของการศึกษา..."
ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง จึงเป็นตลาดวิชา และเป็น มหาวิทยาลัย เปิดแห่งแรกของประเทศไทย โดยให้สิทธิแก่ผู้ที่เคยศึกษาในโรงเรียน
กฎหมายผู้สำเร็จประโยคมัธยมศึกษา และเปิดกว้างให้ถึงผู้ที่เป็น ข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทน ฯ ผู้แทนตำบล ครู ทนายความ เข้าเรียน ได้ด้วย ปรากฏว่าในปีแรกมีผู้สมัครเข้าศึกษาถึง 7,094 คน
วิชาที่เปิดสอนมี 2 แขนงคือ หลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิต ซึ่งสอนวิชากฎหมายเป็นหลัก แต่ได้สอนวิชา รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการฑูตด้วย เมื่อจบปริญญาตรีธรรมศาสตรบัณฑิตก็อาจศึกษาต่อปริญญาโท แยกเป็นแขนงนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการฑูตต่อไป วิชาอีกแขนงหนึ่งคือ วิชาการบัญชี โดยมีหลักสูตร 3 ปี สำหรับประกาศนียบัตร ทางการบัญชี (เทียบเท่าปริญญาตรี) และ 5 ปี สำหรับประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการบัญชี (เทียบเท่าปริญญาโท)
จากวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ทำให้ผู้ไม่มีโอกาสได้ศึกษาถึงขั้นมหาวิทยาลัยได้จบปริญญา และ ประกาศ นียบัตรไปรับใช้ประเทศชาติในทางการเมือง กระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ วงการธุรกิจ และอาชีพอิสระเป็นอันมาก
สำหรับที่ตั้งมหาวิทยาลัย ครั้งแรกใช้ตึกโรงเรียนกฎหมายเดิมที่เชิงสะพานผ่านฟ้าภิภพลีลา ต่อมาเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2478 มหาวิทยาลัยขอซื้อ ที่ดินบริเวณท่าพระจันทร์ ซึ่งเดิมป็นที่ของทหาร และปรับปรุงอาคารเดิมพร้อมทั้งสร้างตึกโดม (อันหมายถึงปัญญา และความเฉียบแหลม) เงินที่ซื้อที่ดินรวมทั้งการก่อสร้างได้มาจากเงินที่มหาวิทยาลัย เก็บจากค่าสมัคร และค่าเล่าเรียน (คนละ 20 บาท ต่อปี) นอกจากนี้ ในเวลาต่อมามหาวิทยาลัยยังได้ตั้งธนาคารเอเชียขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ สำหรับนักศึกษาวิชาการบัญชี ใช้เป็นที่ฝึกงานด้วย
ในปี พ.ศ.2481 มหาวิทยาลัยตั้งโรงเรียนเตรียมปริญญามีหลักสูตร 2 ปี เพื่อรับผู้ประสงค์จะเข้าเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตร์และการเมืองโดยตรง โรงเรียนเตรียมปริญญามีหลักสูตรการสอนหนักไปทางด้านภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และวิชาด้านสังคม เช่น ปรัชญา วิชาเทคโนโลยี ดนตรี พิมพ์ดีด และชวเลข เป็นต้น โรงเรียนเตรียม ปริญญามีทั้งหมดรวม 8 รุ่น จนงถึงปี พ.ศ.2490 จึงถูกยกเลิกไป
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 คณะรัฐประหาร ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ ด้วยเหตุผลทางการเมือง และการ ปกครอง ของคณะรัฐประหาร ทำให้มหาวิทยาลัยได้รับผลกระทบ และถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ผู้ประศาสน์การ ปรีดี พนมยงค์ ต้องลี้ภัย การเมืองไปอยู่ต่างประเทศ ชื่อมหาวิทยาลัยถูกตัดคำว่า "การเมือง" ออก เปลี่ยนเป็น "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" ตำแหน่ง ผู้ประศาสน์ การถูกยกเลิก เปลี่ยนเป็นอธิการบดี หลักสูตรการศึกษาธรรมศาสตรบัณฑิต ถูกเปลี่ยนแปลงเป็น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี ความเป็นตลาดวิชาหมดไป ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ พ.ศ.2495
ในปี พ.ศ.2518 ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นอธิการบดี ท่านเห็นว่า ควรที่ จะขยายการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ ในชั้นปริญญาตรีเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพราะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มีส่วนสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคม เช่นเดียวกับ หลักสูตรทาง สังคมศาสตร์ ที่มี ยู่เดิม พื้นที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ไม่เพียงพอ ต่อการขยายตัว ทางวิชาการและการพัฒนา มหาวิทยาลัยจึงเจรจาขอใช้ที่ดินนิคมอุตสาหกรรม กระทรวง อุตสาหกรรม เนื้อที่ประมาณ 2,400 ไร่ ที่รังสิต เพื่อสนองรับการขยายตัว ของ มหาวิทยาลัย ต่อไป มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงขยายออกไปที่รังสิต เรียกว่า มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเจริญก้าวหน้าและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังขยายไปที่ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยาด้วย โดยอยู่บน พื้นฐาน การปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นธรรมศาสตร์ ดั่งเช่น จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์









08 สิงหาคม 2552

เชอรี่แอน

25 กรกฎาคม พ.ศ. 2529


ในป่าแสมบางสำราญ บริเวณหลัก กิโลเมตรที่ 42 ของถนนสุขุมวิท(สายเก่า) ตำบลปางปูใหม่ จังหวัดสมุทรปราการวันนี้ นางสงัดกับนางสายหยุด ศรีเมือง สองสามีภรรยา ชาวบ้านท่อาศัยในบริเวณนั้นตื่นเช้ามาเพื่อช่วยกันหาและจับปูในป่าแสนซึ่งเป็นป่าชายเลนเพื่อนำไปขายเป็นรายได้เลี้ยงชีพเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
แต่วันนี้เปลี่ยนไป! เพราะวันนี้นอกจากทั้งคู่จะเจอปูแล้ว ยังเจอศพผู้หญิงอีกด้วย เธอนอนเสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำบริเวณในป่าชายเลน แน่นอน.......ทั้งคู่ตกใจรีบไปแจ้งตำรวจสภอ.สมุทรปราการ หลังตำรวจได้รับแจ้ง ไม่กี่นาทีต่อมาก็ยกกำลังพลเกือบหมดโรงพักมายังที่เกิดเหตุ จากการสันนิษฐานชั้นแรกว่า เธออาจเป็นสาวโรงงานในละแวกนั้น อาจถูกลวงมาฆ่า ข่มขื่น เหมือนคดีฆาตกรรมที่เล็กทั่วๆ ไปแต่นี้ไม่ใช่ ข่าวเล็ก ข่าวนี้ ต่อมาได้กลับกลายเป็นข่าวสุดดังไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา เพราะจากการสืบ พบว่า ศพนั้นคือ นางสาว เชอรี่แอน ดันแคน นักเรียนสาวลูกครึ่งวัย 16 ปีของโรงเรียนพระกุมารเยชูวิทยา ซอยสุขุมวิท 101 เธอถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น อาจจะถูกบีบคอเสียชีวิต เพราะสภาพศพไม่พบบาดแผลใดๆ
แน่นอนการสอบสวน บุคคลที่เกี่ยวข้องกลุ่มแรกกับความตายของเธอกลุ่มแรก ประกอบไปด้วย มิสเตอร์โจและนางกลอยใจ ดันแคน พ่อแม่บังเกิดเกล้าของเธอ คนสำคัญอีกคนหนึ่งที่ตำรวจเรียกมาสอบสวนคือ นายวินัย ชัยพานิช หรือเรียกเล่นๆ ว่าแจ๊ค เสี่ยใหญ่วัย 43 ปี (ในขณะนั้น) เจ้าของธุรกิจก่อสร้างมากมายหลายแห่ง ซึ่งฐานานุรูปของเขาคือเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูสาวน้อยเชอรี่แอน (เลี้ยงต้อย?)ประเด็นสำคัญ จากบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สมุทรปราการ ปรากฏว่า นายวินัย ได้แจ้งถึง การหายตัวของ เชอรี่แอนไว้ เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม หลังการพบศพหนึ่งวัน ในขั้นแรกของคดี ตำรวจยังมืดมน เนื่องจากไม่มีหลักฐานประกอใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งพยานบุคคลในที่เกิดเหตุและหลักฐานแวดล้อมรอบข้าง รวมทั้งวิทยาการสอบสวนในสมัยนั้นอาจยังไม่รุดหน้าเท่าทุกวันนี้จากการสืบสวนเพื่อนสนิทของเชอรี่แอน พบว่า ตอนเย็นวันที่ 22 กรกฏาคม หลังเลิกเรียนแล้ว ทุกคนเห็นเชอรี่แอน เดินขึ้นแท็กซี่ ที่มาจอดรอรับเธออยู่หน้าโรงเรียนตามลำพัง และนี้คือภาพสุดท้ายที่เห็นเชอรีแอน เพื่อนๆ ของเชอรี่แอนไม่มีใครจำทะเบียนรถคนนั้นได้ และรูปพรรณสัณฐานของโชเฟอร์แท็กซี่ทุกอย่างมืดมนหนักขึ้นไปอีก สื่อมวลชนในสมัยนั้น โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ เริ่มติดตามข่าวคดีนั้นอย่างต่อเนื่อง กัดแบบไม่ปล่อย เพราะทุกอย่างไม่คืบหน้า เมื่อตำรวจหาหลักฐาน พยานไม่ได้ สื่อก็เร่ง คดีได้รับความสนใจของประชาชน ทำให้ตำรวจจำเป็นต้องปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุด พวกเขาจึงต้องวางแผนอย่างหนึ่งขึ้น.......................Z( หาแพะรับบาป) Z

04 สิงหาคม 2552

นิยามรักภาษาอังกฤษ























When you're in love...life is like a romance novel that you never want to end.
เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งรัก ..ชีวิตก็เหมือนดั่งนิยายที่คุณอ่านไม่จบ

When you love someone...you'll do anything to reach the heart of the one you love.
เมื่อคุณรักใครสักคน...คุณจะทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขา

When you feel true love...you follow the way of the heart.
เมื่อมีรักแท้...คุณก็พร้อมที่จะไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

When love is in your heart...life is so good it's like a dream.
เมื่อมีรักในใจ..ชีวิตก็งดงามดุจความฝัน

When you're in love it has a strange affect on everything you do.

เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งความรัก รักนั้นดูเหมือนจะมีอิทธิพลกับทุกสิ่งที่คุณทำอย่างประหลาด

When you love someone...everything around you can feel the warmth of your love.
เมื่อคุณรักใคร...ทุกสิ่งรอบๆ ตัวคุณดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นแห่งรักนั้น

When you're in love your only aim is for the heart of the one you love.
เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งรัก...สิ่งเดียวที่คุณปราถนาคือ หัวใจรักตอบแทน

When love is in your heart ..it inspires you to be the best you can be.
เมื่อใจคุณมีรัก...รักนั้นจะบันดาลให้คุณทำทุกสิ่งได้ดีเยี่ยม

When you love someone...the seeds you plant grow into love.
เมื่อคุณรักใคร...เมล็ดพันธุ์ที่คุณปลูกก็งอกงามเป็นความรัก

When you're in love you have love to share with everything around you.
เมื่อคุณมีรัก...คุณก็อยากแบ่งปันรักนั้นกับทุกสิ่งรอบๆ ตัว

When love is in your heart you're happy doing the simple chores of life.
เมื่อคุณมีรักในหัวใจ...แม้เรื่องธรรมดาประจำวัน ก็ดูจะทำให้คุณมีความสุขได้

When you love someone no matter how you add it up, the answer remains the same.
เมื่อคุณรักใครสักคน...ไม่ว่าคุณจะคิดไปทางใด คำตอบก็ดูจะออกมาเหมือนเดิมเสมอ

When you're in love the treasure you seek is true and endless love.
เมื่อคุณตกอยู่ในห้วงแห่งรัก...สมบัติล้ำค่าสิ่งเดียวที่คุณแสวงหา ก็คือรักแท้อันเป็นนิรันดร์

When you're bound with love you're a happy prisoner...
เมื่อคุณถูกพันธนาการด้วยรัก...คุณก็คือนักโทษที่มีความสุขที่สุด

When you love someone ...you just can't keep it to yourself.
เมื่อคุณรักใครสักคน...ก็ดูเหมือนว่าคุณจะเก็บรักนั้นไว้ในใจคนเดียวไม่ได้

When you're in love you feel like your heart can life you to a higher place and put you on top of the world...
เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งรัก ... คุณจะรู้สึกราวกับว่า หัวใจพาตัวคุณล่องลอยสู่ความสุขเหนือคนทั้งโลก
"It's not too hard to find some love
but it's also not easy to make that love to be forever."
- - Anonymous - -
อันความรักไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ที่จะรักษาความรักนั้นให้อยู่เป็นนิรันดร์


"Life is beautiful with people like you in it."
- - Anonymous - -
ชีวิตช่างงดงามนัก เมื่อมีคนอย่างคุณอยู่ด้วย


"The only abnormality is the incapacity to love."

ได้มีรักและสูญเสียมันไป ยังดีเสียกว่า ไม่รู้จักความรักเลย


"Thoughts of you brighten up my day."

การได้คิดถึงคุณ ทำให้วันของฉัน..สว่างไสว


"To LOVE is to GIVE."

ความรักคือการให้

"When you love someone, say it. Say it loud. Say it right away,
or the moment...just passes you by."
เมื่อไหร่ที่คุณรักใครสักคน จงบอกเขา บอกไปเลยดังๆ ว่า คุณรักเขามากมายแค่ไหน
อย่าปล่อยจนถึงวันที่เขาไม่อยู่ให้คุณบอกรัก


"Love is composed of a single soul inhabiting two bodies."
-ความรักคือ การรวมจิตวิญญาณของคนสองคนให้เป็นหนึ่ง