06 ตุลาคม 2552

2012..วันสิ้นโลกตอนจบ



>>>>บทสรุปขอคำพยากรณ์ <<<<





ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงาย และดูหดหู่ สัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งน้ำตาซึม
เรื่องเวลาที่แน่นอนนั้น ขอบอกตามตรงว่า ไม่ทราบ เพราะจริงๆแล้วน่าจะเกิดตั้งแต่ ค.ศ. 1999 ตามที่นอสตราดามุสทำนายเอาไว้ แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว ภัยธรรมชาติที่รุนแรงอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ และจากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ต่างๆ คิดว่าจะเกิดภายใน 1 – 3 ปีนี้
เป็นกรรมของสัตว์โลกนะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์ปลายปี 47 แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อย ๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทางดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและอุบัติภัยสงคราม และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระจักรพรรดิลงมาก ภัยพิบัติจึงจะสงบ
ต่อไปที่จะวิบัติหนัก ๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น
สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯ ก็มิใช่จะปลอดภัยเพราะฝ่ายรักษาภายในของกทม เริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะ แก่งทั้งหมด เราเข้าใจว่าภัยพิบัติในภาคใต้ สัญญาณของยุคจักรพรรดิที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จริงมีสัญญาณอย่างอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เช่น เรื่องธาตุแก้วเจ็ดประการที่เริ่มเข้ามาสู่ระบบแล้ว และมีสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่กระจัดกระจายกันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น
ครูบาอาจารย์เคยเล่าว่า แค่นาคโก่งหลังขึ้นมามนุษย์ก็ตายเป็นเบือแล้ว ต่อไปบางที่ก็จะหายไปทั้งเกาะ นี่ยังไม่นับภัยพิบัติจากท้าวกกนาคแถวลพบุรีที่ในไม่ช้า (ช่วงท้ายของภัยพิบัติ) จะลุกขึ้นมา (ภายใน) เพื่อไปรอรับพระจักรพรรดิ ขณะที่ทหารลิง 18 กองพล ที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้อยู่ที่อื่น ครูบาอาจารย์ท่านว่ายักษ์กกนาคตนนี้มีพิษมาก แค่พลิกตัว พิษของยักษ์ก็จะทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้ มนุษย์จะตายไปครึ่งโลก แต่คนที่มีศีลก็ไม่เป็นไร
เราค่อนข้างมั่นในว่า ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจและไทยกับลาวจะรวมกันเป็นหนึ่ง (ประเทศเดียวกัน) ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียรรักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงต้องไปตามวิถีกรรมของตนเอง
ศาสนาอื่นนั้นไม่มีเหลือ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมด เท่าที่ทราบต่อไป มหาอำนาจอย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาไทย ศูนย์กลางโลก ศูนย์กลางศาสนา อยู่ในประเทศไทย ซึ่งต่อไป ที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนา
ในยุคจักรพรรดิ ทั้งโลกจะถูกปกครองโดย 3 ร่มโพธิ์ศรีอัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิจะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลกอย่างที่พวกยิงเขาคิดจะครองโลกกัน นั้นไปไม่ถึงดวงดาวหรอกเพราะวิทยาศาสตร์ถึงทางตันแล้ว
เหตุที่เกิดในภาคใต้ซึ่งเป็นเขตพระพุทธศาสนายังรุนแรงขนาดนี้ ต่อไปเหตุที่เกิดในเขตศาสนาอื่นๆนั้น จะรุนแรงกว่านี้มาก และความหายนะที่จะเกิดขึ้นนั้นก็จะมากด้วย
ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณเดิมของการมาเกิดก็จะเข้าใจว่า อย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเดิมหรือต้นธาตุของจิตวิญญาณของพวกนี้ เป็นพวกยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้น ที่ครูบาอาจารย์ท่านว่า พวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้นก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้ก็มาเกิดมากในยุคนี้ ส่วนใหญ่ในเขตประเทศไทย และประเทศใกล้เคียงจะเป็นเชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทยส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป็นเชื้อต่างๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมีในภพภูมิไหนมาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับภพภูมิเหล่านั้น และเมื่อถึงเวลาก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูมิ และบางครั้งการทำงานจากภายใน ก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอก แต่คนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน ที่เห็นก็คือผลที่แสดงออกมาภายนอก และพยายามอธิบายกันด้วยเหตุผลและผลทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นการรู้นอกแต่ไม่ รู้ใน คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายเหตุผลภายนอก แต่ไม่เข้าใจถึงกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นเหตุอยู่ภายใน เป็นต้น นี่คือรู้ไม่แจ้งในเรื่องนั้นๆ
ก็เลยเกิดความ “ประมาท” ต่อไปจะมีพระจักรพรรดิเป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมิกราชจะคล้ายพระสังฆราชและจะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งจะทำ หน้าที่คล้ายกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์ศรีก็คือ สามโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนานั่นเอง และก็มีเหล่าอัญญาสิทธิ์ บางคนก็อาจยังไม่รู้ตัวเอง ถึงเวลาแล้วก็คงจะได้เห็นว่าของจริงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งบางท่านจะมีชื่อเสียงในหมู่เทพ เทวดา นาค ครุฑ กุมภกัณฑ์ ฤาษี ดาบส ฯลฯ พวกเขาเหล่านั้นก็รอยุคพระยาธรรมิกราช แต่พวกมนุษย์ไม่รู้จัก เพราะท่านเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบ ๆ และลี้ลับ ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรย ๆ ให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น “ดังบ่ดี ดีบ่ดัง”
จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนดและยุคพระยาธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในกึ่งกลางพุทธศาสนา ในยุคของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
อย่างในยุคพระเวสสันดร หลังจากพระเวสสันดร ได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดยุคพระยาธรรมิกราชหรือยุคพระจักรพรรดิขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าลูกชายพระเวสสันดรจะเป็นพระจักรพรรดิในสมัยนั้นในยุค ร่วมสมัยปัจจุบันนี้ มีบุคคลผู้หนึ่ง ทำทานบารมีจนได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้วเช่นกัน ก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมิกราชนั้นเข้ามาใกล้ถึงปลายจมูกแล้ว
ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำ หากเมื่อใดที่ผู้ที่เขาได้พรพระอินทร์เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา ระบบที่เขาทำหน้าที่ภายในเขาก็จะทำงานตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้นจะเห็นคุณค่าของศีลธรรม ของศีล 5 ศีล 8 ของบุญบารมีที่แต่ละท่านบำเพ็ญเพียร สั่งสมมา
ให้ลองนึกถึงคลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหนที่ทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวันหายวับไปได้ใน พริบตาเมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่ทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่โก่งหลังหรือสะดุ้งเพียงเล็กหน่อย ลองจินตนาการดูว่า หากพวกนาคบางพวกมีหน้าที่ทำฤทธิ์เพื่อล้างพวกผู้มีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับอยู่ในยุคพระยาธรรมบนโลกนี้ก็จะเหลือคนไม่มากอย่างที่พระสูตรบอกไว้

เหตุการณ์ต่างๆที่กล่าวมานั้น จะมีอยู่วันหนึ่งที่เหตุการณ์รุนแรงที่สุด คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายังโลก เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะอันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11 มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกันเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว บรรยากาศช่วงแรกๆจะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล หลังจากนั้นไม่นานนัก ลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้าเสียงลมจะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เป็นเสียงของพญามัจจุราชที่พิพากษาโลกในด้านความเป็นมนุษย์คนชั่วทุกคนจะถูก ประหารชีวิตและจะตายอย่างทรมาน ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ ส่วนคนดีจะได้รับการยกเว้นเอาไว้ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป
ปลายปี 2548 นี้ จะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะส่งผลให้มีคนตายจำนวนมาก ส่วนผู้ที่รักษาศีล 5 ขึ้นไปจะรอด และอีก 5 ปีต่อไปน้ำจะท่วมภาคใต้ และจะร้ายแรงกว่าสึนามิหลายเท่า ผู้คนที่รอดชีวิตจำต้องเดินทางขึ้นเหนือเพื่อให้พ้นภัยโดยระหว่างทางจะพบกับ คนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก
คนที่ไม่เคยเข้าวัดก็รีบเข้าวัดซะ ตอนนี้ก็ยังทัน รีบหาของดี วัตถุมงคลติดตัวไว้ แต่ถ้าเป็นคนที่มีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดีและสุดท้ายให้นั่งสมาธิ เพราะไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้นอกจากสมาธิ และผู้ที่ปฏิบัติสมาธิได้อภิญญา เรียกว่าให้อยู่ใกล้คนดีเข้าไว้และปี 2549 พระศรีอารย์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตในตอนนี้ จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ (ท่านลงมาเกิดในคราวนี้ไม่ใช่จะมาเป็นพระพุทธเจ้า แต่เพื่อช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากเหตุการณ์อันเหลือที่มนุษย์จะรับมือได้ไหว ครั้งนี้ เพื่อช่วยให้พ้นจากภัยสงครามครั้งมหึมาที่จะทำให้มีคนตายมหาศาลที่กำลังจะ เกิดขึ้น ท่านอาจจะเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ได้แต่ยังไม่แสดงตัวเท่านั้น)
หากท่านไม่แน่ใจว่าตัวท่านมีความดีพอที่จะรอดพ้นจากมหาภัยพิบัติครั้งนี้ละ ก็ ขอให้หาของดีติดตัวเอาไว้เป็นอย่างดี หรือถ้าหาของดีไม่ได้จริงๆ ก็จงทำตัวของท่านให้เป็นคนดีเพื่อความดีจะรักษาตัวของท่านเอง หากท่านไม่เชื่อก็จงอย่างเพิ่งปฏิเสธ เช่น เชื้อโรคที่ตาเปล่าของเรามองไม่เห็น แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันมี เพราะเรามีเครื่องมือคือกล้องจุลทรรศน์ที่จะส่องเห็นแล้ว ส่วนเรื่องอย่างอื่นเช่นที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้า เครื่องมือที่จะเห็นก็มีแล้วคือการปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ แต่อยู่ที่ท่านจะใช้เครื่องมือ หรือรู้วิธีใช้เครื่องมือนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่เท่านั้นเอง
ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือที่หลวงพอฤาษีลิงดำ ท่านเขียนไว้ว่า อีกไม่กี่ร้อยปี จะมีพระมหากษัตริย์ท่านหนึ่งเดินทางจากเหนือมาบูรณะวัดท่าซุง ขณะนี้ วัดท่าซุงก็ยังคงเป็นปกติดี แสดงว่าหลังจากนี้ไม่นานนักคงต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้วัดท่าซุงร้าง ซึ่งปัจจุบันวัดท่าซุงยังมีคนไปทำบุญถือศีล ปฏิบัติธรรมอย่างไม่ขาดสาย แต่จะมีเหตุใดเล่าที่ทำให้วัดร้างได้นอกจาก..
(อาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างชาติซึ่งเป็นชนวนให้เกิดอภิมหาสงครามครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทยก็เป็นได้)
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จงหมั่นทำดีเพื่อรักษาชีวิตรอดเทอญ

ประเทศไทย เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองรักษาไว้ ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลกและจะเป็นอู่ข้าว อู่น้ำซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป
มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้ จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงามและมีอายุไขที่ยาวจนน่าประหลาดใจ มีอารยธรรมเจริญก้าวหน้า โดยที่ไม่ได้สร้างเทคโนโลยีที่ก่อปัญหาให้กับโลกมากมายเช่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้ ซึ่งแม้แต่ปัจจุบันบางคนก็ไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก และเป็นประเทศแรกที่มีผุ้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้เป็นแห่งเดียวของโลก โดนใช้พลังจิตในการขับเคลื่อนโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติของโลกให้เสียหายเหมือนอย่างเช่นปัจจุบัน
นอกจากนี้ต่อมไพนิล หรือตาที่3ของมนุษย์จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีตในระยะเวลาไม่นานนัก (ภายใน6ปี)
พระศรีอริยะเมตไตร จะเปิดเผยพระองค์ เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจให้กับมวลมนุษยชาติ ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์ แล้ว กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนา และพระองค์ได้มาปรากฏที่ประเทศไทยนี่เอง



ที่มาให้อ่านกันนั้น...ไม่ได้ให้เชื่อ...แต่ให้เราระมัดระวังกันไว้




เพราะอนาคตวันข้างหน้าจะเกิดกับเราบ้างเราไม่อาจรู้ได้






เพราะฉะนั้น..การมีสติใช้การดำรงชีวิตนั้นดีที่สุด